นิทานสอนใจ...เรื่อง "ผู้เดินตาม"
===========================
มีสามเณรรูปหนึ่ง เดินทางไปกับอาจารย์ของตนที่เป็นพระอรหันต์ สามเณรแบกถุงย่ามเดินตามหลังอาจารย์ ระหว่างทางได้คิดตั้งความปรารถนาพระอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ในขณะที่คิด พระอรหันต์ผู้เป็นอาจารย์ก็เรียกถุงย่ามมาถือไว้เอง แล้วให้สามเณรเดินนำหน้า ตัวท่านเองเดินตามหลังเดินไปได้สักพัก สามเณรกลับคิดว่า พุทธภูมินั้นไม่ใช่ภูมิที่จะบรรลุได้ง่ายๆ ต้องบำเพ็ญเพี
ยรบารมีหลายอสงไขยกัลป์ กว่าจะได้ตรัสรู้ คิดท้อถอย จึงคิดปรารถนาแต่เพียงอรหัตภูมิเท่านั้น
ฝ่ายพระอรหันต์ผู้อาจารย์ ก็เรียกสามเณรให้กลับมาถือย่ามเดินตามหลังท่านตามเดิม เดินไปได้อีกหน่อย สามเณรองค์นั้นก็กลับคิดว่า จะท้อถอยไปทำไม เมื่อตั้งใจมุ่งต่อพระโพธิญาณแล้วก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคบรรลุให้ได้ พอคิดเช่นนั้น อาจารย์ก็กลับเรียกย่ามไปถือ และให้สามเณรเดินนำหน้าอีก สามเณรผู้เป็นศิษย์ นึกแปลกใจในการกระทำของอาจารย์ จึงถามขึ้นว่า
"ท่านอาจารย์ทำเช่นนี้ประสงค์อะไร กระผมไม่เข้าใจเลย"
"เจ้าไม่รู้หรือว่า เมื่อเจ้าปรารถนาพระโพธิญาณ จิตเจ้าสูงและยิ่งใหญ่กว่าเรา เราได้เพียงอรหัตภูมิ แม้จะหมดอาสวะแล้วก็ตาม ในฐานะที่เราเป็นอรหันต์ จึงต้องเคารพผู้ที่มีปณิธานต่อพุทธภูมิเดินนำหน้า" อาจารย์อธิบาย
"กระผมเป็นเพียงปุถุชน และนี่ก็เป็นเพียงความตั้งใจเท่านั้น ยังไม่ได้บรรลุสักนิด ไฉนท่านอาจารย์จึงคิดเช่นนั้น" สามเณรแย้ง
"เจ้าอย่าดูแคลนในสิ่งที่เป็นเพียงความปรารถนา เมื่อใจเกิดธรรมย่อมเกิด เมื่อใจดับธรรมย่อมดับ อำนาจใจที่มุ่งต่อพุทธภูมิแม้เพียงชั่วขณะจิต ก็จัดว่ายิ่งใหญ่แล้ว เราจึงต้องเคารพ" ท่านอาจารย์ตอบ
นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า...บุคคลที่ปรารถนาพุทธภูมิในปัจจุบันนี้หาได้ยาก...หากแม้ผู้ใดอธิษฐาน...มุ่งหวัง ตั้งใจไว้...แม้เพียงเสี้ยวขณะจิต..ผู้นั้นย่อมมีอานิสงส์มาก...เพราะกรรมนี้จะส่งผลให้เป็นเหตุเป็นปัจจัยในอนาคตกาลภายภาคเบื้องหน้าอย่างไม่ต้องสงสัย...และท่านใด ที่ชอบสาบานโปรดจำไว้ อย่าได้ดูแคลนจิตในขณะที่ท่านสาบาน พลังจิตสามารถส่งผลอย่างที่คาดไม่ถึงจริง ๆ
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น