นิทานเซน...เรื่อง “เทพเจ้าแห่งกอบัว”

ในภาพอาจจะมี ดอกไม้

นิทานเซน...เรื่อง “เทพเจ้าแห่งกอบัว”
===========================

มีชายคนหนึ่งมักจะไปบำเพ็ญภาวนาอยู่ในป่า รักษาศีลอย่างบริสุทธิ์และมีพลังศรัทธาเชื่อมั่นมาก ทุกวันจะต้องไปนั่งกรรมฐานวิปัสสนาที่ป่าแห่งนี้

วันหนึ่งนั่งสมาธิจนรู้สึกมึนหัว...เลยลุกขึ้นมาเดินเล่น บังเอิญเดินผ่านสระบัวแห่งหนึ่งเห็นดอกบัวกำลังออกดอกบานสะพรั่ง ดูงามตายิ่งนัก...

ชายคนนั้นคิดว่า ดอกบัวงามอย่างนี้ หากเด็ดมาสักดอกแล้ววางไว้ข้างตัวดมกลิ่นหอมอ่อน ๆ ของดอกบัวไปด้วย คงจะทำให้สดชื่นขึ้น

ดังนั้น เขาจึงเอี้ยวตัวไปเก็บมาหนึ่งดอก ขณะที่กำลังจะจากไป ได้ยินเสียงต่ำ ๆ แต่แฝงไว้ด้วยพลัง ถามมาว่า

“ใคร? โอหังยังไงถึงมาขโมยดอกบัวของข้า?”

ชายคนนั้นมองไปรอบๆ แต่ไม่เห็นมีอะไร เลยถามไปว่า

“ท่านเป็นใคร? แล้วจะบอกได้ยังไงว่าดอกบัวนี้เป็นของท่าน”

“ข้าเป็นเเทพจ้าที่ดูแลสระบัวแห่งนี้ ดอกบัวทั้งสระนี้ก็เป็นของข้า เสียแรงที่เป็นนักภาวนา...เหตุใดเจ้าจึงมาขโมยเด็ดดอกบัวของข้า เจ้าเกิดความโลภขึ้นมาในใจ ยังไม่รู้ตัวยังไม่รู้สึกสำนึกผิด ยังจะกล้ามาถามอีกว่า...ดอกบัวนี้เป็นของข้าหรือเปล่า?”

ชายนั้นรู้สึกละอายใจและอดสูยิ่งนัก นั่งคุกเข่าแล้วคำนับขอขมาพูดว่า

“ท่านเทพแห่งดอกบัว ข้าสำนึกผิดแล้ว จะแก้ตัวใหม่กับความผิดที่ผ่านๆ มาจะไม่กล้าโลภอยากได้สิ่งของที่ไม่ใช่ของตัวเอง”

ขณะที่เขาสำนึกผิดอยู่นั้น มีคนๆหนึ่งเดินผ่านมาข้างสระพอดี พลางพูดกับตัวเองว่า ดอกบัวนี้บานได้อย่างอวบอิ่มยิ่งนัก เด็ดไปขายในเมืองดีกว่าได้เงินมาแล้ว ดูซิเงินที่เล่นไพ่แพ้แล้วจะเอากลับคืนมาได้หรือเปล่า?

ว่าแล้วก็กระโดดลงไปในสระ เก็บดอกบัวทุกดอกในสระไปหมด ทั้งยังเหยียบย่ำใบจนจมโคลนไปหมด แม้กระทั่งโคลนยังถูกพลิกขึ้นมา แล้วก็หอบเอาบัวกำใหญ่หัวเราะอย่างถูกใจแล้วจากไป

ชายคนนั้นหวังเป็นอย่างยิ่งว่า เทพเจ้าแห่งกอบัวจะออกมาห้าม ดุด่าและลงโทษคนๆ นั้น แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงอะไรเลย เขาเต็มไปด้วยความสงสัยเลยถามออกมาลอยๆว่า

“ท่านเทพ ข้าเพียงแต่เด็ดดอกบัวไปเพียงดอกเดียว แต่ท่านกลับดุด่าว่าข้าอย่างรุนแรง แต่คนเมื่อกี้เด็ดดอกบัวไปทั้งหมด ทั้งทำลายสระจนเละไปหมด ท่านทำไมถึงไม่พูดสักคำ?”

ท่านเทพตอบมาว่า “ท่านเป็นนักภาวนา ก็เหมือนผ้าขาวผืนหนึ่ง แม้มีเพียงรอยสกปรกเพียงเล็กน้อย ก็สามารถเห็นได้อย่างชัดเจน ดังนั้นข้าจึงเตือนเจ้าให้รีบขจัดสิ่งที่ทำให้มัวหมอง กลับกลายเป็นบริสุทธิ์ดังเดิม  แต่คนๆ นั้นเป็นคนหยาบช้ามาแต่เดิม เหมือนดังผ้าขี้ริ้ว ถึงจะสกปรกถึงจะดำอีกก็ไม่เป็นไร ข้าก็ช่วยอะไรเขาไม่ได้ ได้แต่ปล่อยให้เขาเป็นไปตามกรรมที่เขาก่อไว้เองถึงไม่ได้พูดอะไร

เจ้าก็อย่าน้อยใจไปเลย ควรจะดีใจมากกว่า ที่ข้อผิดพลาดของเจ้ามีคนเห็นและคนที่เห็นแล้วยังมาชี้แนะให้เจ้าเดินไปในทางที่ถูกที่ควร แสดงว่าผ้าของเจ้ายังขาวอยู่...ควรที่จะได้รับการชำระให้สะอาด นี่ควรจะเป็นเรื่องที่น่าดีใจไม่ใช่หรือ?”

ชายหนุ่มจึงได้คิดและก้มกราบขอขมาต่อเทพเจ้า พร้อมทั้งกล่าวคำ "ขอบคุณ" ที่เทพเจ้าแห่งกอบัวได้เป็นผู้ชี้ขุมทรัพย์อันประเสริฐแก่ตน...


ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

นิทานธรรม...เรื่อง "หงส์ทองคำ"

นิทานสอนใจ...เรื่อง "คนที่ไม่ถูกนินทา"

นิทานสอนหญิง...เรื่อง "ความลับในกำมือ"